วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เลซิติน (Lecithin) ใน LECITHIN PLUS(เลซิติน พลัส)

เลซิติน(lecithin) นำมาผลิตเป็นอาหารเสริมซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้ดูแลรักษาสุขภาพ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษของเลซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ ช่วยบำรุงสมองป้องกันภาวะความผิดปกติของระบบประสาท เสริมสร้างการทำงานของตับ และยังลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย


      เลซิตินเป็นสารที่พบได้ทั่วไปในอาหารประเภทนมสด ชีส เนย ไข่ เนื้อวัว ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ น้ำมันพืช สมอง ตับ ไต ข้าว แป้ง ถั่วลิสง และแครอท ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารเสริมปัจจุบันนิยมใช้เลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มากกว่าไข่แดง เนื่องจากการประหยัดต้นทุนในการผลิตมากกว่า และเลซิตินที่สกัดได้จากถั่วเหลืองมีคุณภาพดีกว่าเนื่องจากมีกรดไขมันไม่ อิ่มตัวสูงกว่านั่นเอง
          เลซิตินเป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสโฟลิปิด (phospholipid) เช่นพวกฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) ฟอสฟาติดิลเอทาโนลามีน และฟอสฟาติดิลไลโนซิทอล กรดไขมันจำเป็นและโมเลกุลของวิตามินบี 2 ชนิด ได้แก่ อิโนซิทอล (Inosital) และโคลีน (Choline)รวมอยู่ด้วย

              ประโยชน์ของเลซิติน
     1.  บำรุงสมองและป้องกันภาวะความผิดปกติของระบบประสาท
2. ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี และเสริมสร้างการทำงานของตับ
3. ลดภาวะไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง
4. ช่วยลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
5. มีการเรียนรู้ดีขึ้น เกิดการสร้างความทรงจำ
6. ช่วยควบคุมปริมาณฮอร์โมนที่ช่วยขับปัสสาวะ
7. ควบคุมความดันโลหิต และความเข้มข้นของสารต่างๆ ในกระแสเลือด
8. ช่วยเพิ่มกลไกการสร้างน้ำดีจากโคเลสเตอรอล
     เมื่อรับประทานเลซิตินเข้าไป ร่างกายจะสังเคราะห์สารสื่อประสาทขึ้นมาจากโคลีน ส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น มีการเรียนรู้ดีขึ้น เกิดการสร้างความทรงจำ ช่วยลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ และความผิดปกติของการเคลื่อนไหว เช่น Parkinson’s disease ได้ และจากการศึกษาพบว่าเลซิตินเป็นแหล่งพลังงานของสมองให้กับผู้ที่อยู่ในสภาวะ ที่มีความเครียดสูงได้อย่างดีด้วยเช่นกัน สารโคลีนในเลซิตินยังช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดภาวะไขมันพอกตับ อันเป็นสาเหตุให้ตับอักเสบ และโรคตับแข็ง ช่วยให้ตับการดูดซึมวิตามินบีหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการดูดซึมวิตามินเอในลำไส้อีกด้วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการบำรุงตับหรือผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำจึงควรรับประทานเลซิติน
        นอกเหนือจากนี้ โคลีนในเลซิตินยังช่วยควบคุมปริมาณฮอร์โมนวาโซเพรสซิน (vasopressin) หรือแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน (antidiuretic hormone) ที่ช่วยขับปัสสาวะ ควบคุมความดันโลหิต และความเข้มข้นของสารต่างๆ ในกระแสเลือดได้อีกด้วย
        ประโยชน์ของเลซิติน ยังช่วยเพิ่มกลไกการสร้างน้ำดีจากโคเลสเตอรอล โดยจะไปช่วยลดอัตราการดูดกลับของน้ำดีในลำไส้เล็ก ด้วยการดึงเอาโคเลสเตอรอลในเลือดซึ่งเป็นองค์ประกอบในการสร้างน้ำดีมาใช้ เพิ่มขึ้น การที่เลซิตินสามารถดึงโคเลสเตอรอลในเลือดมาใช้ได้นั้น เนื่องจากเลซิตินมีคุณสมบัติเป็นอีมัลซิฟายเออร์ (emulsifier) คือสามารถทำให้โมเลกุลของไขมันมีขนาดเล็กลงจนรวมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำได้ ร่างกายจึงดูดเอาโคเลสเตอรอลมาใช้ในการสร้างน้ำดีได้ ส่งผลให้โคเลสเตอรอลในเลือดลดปริมาณลง แต่หากมีปริมาณของเลซิตินน้อยเกินไป เกิดการตกตะกอนของโคเลสเตอรอลในถุงน้ำดี เกิดเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ที่มีภาวะอ้วนและมีบุตรหลายคน
    หากมีปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือดสูงจะทำให้เกิดการอุดตัน ของหลอดเลือด ดังนั้นการรับประทานเลซิตินจึงเป็นการลงความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลอด เลือดอุดตันและโรคหัวใจได้นั่นเอง


LECITHIN PLUS ผลิตภัณฑ์บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ ควบคุมระดับคอเรสเตอรอล


    เลซิติน พลัส ประกอบด้วยสารสำคัญดังนี้
    1.เลซิติน ช่วยควบคุมระดับครอเลสเตอรอล ช่วยให้เซลตับมีการเผาผลาญไขมันในตับและเสริมส้รางความจำ
   2.อินโนซิทอล บำรุงและเสริมสร้างการทำงานกระบวนการเมตาบอริซึ่มในร่างกาย
   3.เบต้ากลูแคน ช่วยลดครอเลสเตอรอลในเส้นเลือดและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
วิธีรับประทาน  รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
         เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0023
         ดูข้อมูลที่     http://lecithinplusmir.blogspot.com    
         ขนาดและราคา   1 ขวด 30 แคปซูล ราคา 360 บาท
                          บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง
         สั่งซื้อที่     คุณ วีระชัย   ทองสา
                    ID Line : weerachaicoffee    
                    โทร. 084-6822645 , 085-0250423(Line)
                    อีเมล์  weerachai.coffee@hotmail.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น